PALO IT Blog

4 ยักษ์ใหญ่ IDE : Antigravity vs Cursor vs VS Code vs IntelliJ กับยุค AI

เขียนโดย Warakron Kanthawong - 26/11/25

โลกของการเขียนโปรแกรมกำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จากยุคที่เราต้อง “พิมพ์เองทุกบรรทัด” (Manual) เข้าสู่ยุค “AI ช่วยพิมพ์” (Copilot) และล่าสุดเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค “Agentic Workflow” หรือการให้ AI เป็นคนทำ โดยเราเป็นคนสั่งการ

วันนี้เราจะมาจับคู่ชก 4 ตัวตึงแห่งวงการ: IntelliJ (พี่ใหญ่สายแข็ง), VS Code (มาตรฐานโลก), Cursor (ผู้มาก่อนกาล), และน้องใหม่มาแรง Google Antigravity

เริ่มจาก น้องใหม่กันก่อนเลยคือ Google Antigravity โดยจับคู่กับ Gemini 3 Pro

จากที่ได้ลองใช้มา ผมชอบ concept การ planning ก่อนที่จะ implement ซึ่งทำให้เราเห็นภาพรวมและขั้นตอนที่ AI จะทำต่อไป Antigravity ทำได้ค่อนข้างดีในส่วนนี้ รวมถึงความเร็วในการทำงานของ AI โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างดี

ข้อดี

  • AI ประมวลผลได้เร็ว
  • แรง
  • วางแผนงานก่อนลงมือทำ ทำให้เราเห็นภาพว่า AI จะทำอะไรต่อไปบ้าง
  • ตอนนี้ยังฟรี สามารถไปลองใช้งานกันได้ เพียงแค่มี Google account

ข้อเสีย

  • ยังอยู่ในช่วง Preview อาจมีบั๊กหรือความไม่เสถียร
  • ในอนาคตอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ต่อมาใน IDE ตัวที่ 2 Cursor จับคู่กับ Composer 1 ซึ่งเป็น AI ของ Cursor เอง

จากที่ได้ลอง ตัว Curosr มาก็เจอว่าต้องมี subscription ก่อนถึงจะเลือกใช้งาน agent ได้ แต่ code ที่ได้ค่อนข้างดี มีการแยกไฟล์ ระหว่าง component และ style โดยรวมแล้วค่อนข้างดีเช่นกัน

ข้อดี

  • AI ประมวลผลได้เร็ว
  • แรง
  • ใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่ได้มีตัวเลือก ซับซ้อน(แอบยากตอนเลือก agent ตอนแรก 555+ )
  • เข้าใจ context ได้ดี UI ทำออกมาได้ดีมาก

ข้อเสีย

  • ต้องจ่ายรายเดือน (20 USD) ถึงจะเลือก AI model ได้ และ
  • เขียน code เน้น style ไวๆ เกินไปจนเสีย structure ของ project

ต่อมา VSCode ของ Microsoft มาคู่กับ GPT-5 ของทาง OpenAI

IDE สุด classic ที่ผมเชื่อว่าแทบทุกคนเคยใช้ ผมได้ลอง GPT-5 ผ่านทาง github copilot แล้ว รู้สึกว่าช้า และให้ code ออกมาที่ ค่อนข้างแย่กว่า 2 ตัวที่ผ่านมา UI ทำออกมาได้ครึ่งๆกลางๆ เหมือนทำไม่เสร็จ อาจต้องให้ prompt ที่ละเอียดถึงจะได้งานได้ดี

ข้อดี
  • ใช้งานง่าย UI ดูเรียบง่าย
  • มี extension เป็น ล้านน ปรับแต่งได้ตามใจ

ข้อเสีย

  • ต้องจ่ายรายเดือน (10 USD) ถึงจะใช้ agent mode ได้
  • GitHub Copilot มันยังรู้สึกว่าเป็น “ส่วนเสริม” (Add-on) ไม่ได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับ Editor เหมือน Cursor หรือ Antigravity อาจทำให้ ผลลัพธ์ไม่ดีสู้เจ้าอื่น

ตัวสุดท้ายพี่ใหญ่ IntelliJ ผมเลือกตัว WebStrom มา กับ Junie AI ของทาง IntelliJ

IDE สำหรับสายเก๋า และ เก่า 5555+ IntelliJ เป็น สำหรับมืออาชีพที่ต้องการความสมบูรณ์แบบและการจัดการโปรเจกต์ขนาดใหญ่ โดยรวมทำได้โอเค ระดับเดียวกับ VSCode มีความช้าบ้าง เพราะ กินแรมเยอะ ตัว AI ทำงานโอเค ออกไปทางกลางๆ อาจต้องการ prompt ที่ละเอียดแบบ GPT ถึงจะทำงานได้ดี

ข้อดี

  • UI ใช้งาน style classic ของ IntelliJ ตัว IDE ทำงานได้ดี
  • Code suggestion ดีเยี่ยม
  • การจัดการ lib ค่อนข้างทำได้ง่าย

ข้อเสีย

  • ตัว IDE ค่อนข้างแพง และต้อง subscription รายปี (200 USD)
  • ให้ credit AI น้อยกว่าเจ้าอื่น
  • ราคา credit AI เสริมค่อนข้างแพง
  • Junnie เองยังทำงานได้ช้าและ UI ไม่ค่อยสวย

ถ้าให้เลือกส่วนตัว ตอนนี้ก็คงเป็น Antigravity ของทาง Google ยอมรับว่า มาแรงจริงๆ

ผมได้เปรียบเทียบแบบคร่าวๆ ไว้แล้วลองดูกันเลยย

 

สำหรับใครที่กำลังมองหาทีมงานมืออาชีพในการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันเพื่อนำไปใช้งานในองค์กร ที่ PALO IT เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Software Development และ Application Development พร้อมช่วยคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนสามารถใช้งานได้จริง!

บริการของเราครอบคลุม:

  • ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development) ตามความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณ
  • สร้างแอปพลิเคชัน (Application Development) ให้ตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรในทุกมิติ
  • ปรับแต่งและดูแลระบบให้มีประสิทธิภาพสูง รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
  • ทดสอบและประเมินผลอย่างมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบของคุณใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพ
  • ไม่ว่าคุณจะมีไอเดียใหม่ๆ หรือมีระบบอยู่แล้วที่อยากต่อยอด PALO IT พร้อมเป็น partner ที่จะช่วยให้คุณก้าวไปได้ไกลยิ่งขึ้น