โลกของการเขียนโปรแกรมกำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จากยุคที่เราต้อง “พิมพ์เองทุกบรรทัด” (Manual) เข้าสู่ยุค “AI ช่วยพิมพ์” (Copilot) และล่าสุดเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค “Agentic Workflow” หรือการให้ AI เป็นคนทำ โดยเราเป็นคนสั่งการ
วันนี้เราจะมาจับคู่ชก 4 ตัวตึงแห่งวงการ: IntelliJ (พี่ใหญ่สายแข็ง), VS Code (มาตรฐานโลก), Cursor (ผู้มาก่อนกาล), และน้องใหม่มาแรง Google Antigravity
เริ่มจาก น้องใหม่กันก่อนเลยคือ Google Antigravity โดยจับคู่กับ Gemini 3 Pro
จากที่ได้ลองใช้มา ผมชอบ concept การ planning ก่อนที่จะ implement ซึ่งทำให้เราเห็นภาพรวมและขั้นตอนที่ AI จะทำต่อไป Antigravity ทำได้ค่อนข้างดีในส่วนนี้ รวมถึงความเร็วในการทำงานของ AI โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างดี
ข้อดี
ข้อเสีย
ต่อมาใน IDE ตัวที่ 2 Cursor จับคู่กับ Composer 1 ซึ่งเป็น AI ของ Cursor เอง
จากที่ได้ลอง ตัว Curosr มาก็เจอว่าต้องมี subscription ก่อนถึงจะเลือกใช้งาน agent ได้ แต่ code ที่ได้ค่อนข้างดี มีการแยกไฟล์ ระหว่าง component และ style โดยรวมแล้วค่อนข้างดีเช่นกัน
ข้อดี
ข้อเสีย
ต่อมา VSCode ของ Microsoft มาคู่กับ GPT-5 ของทาง OpenAI
IDE สุด classic ที่ผมเชื่อว่าแทบทุกคนเคยใช้ ผมได้ลอง GPT-5 ผ่านทาง github copilot แล้ว รู้สึกว่าช้า และให้ code ออกมาที่ ค่อนข้างแย่กว่า 2 ตัวที่ผ่านมา UI ทำออกมาได้ครึ่งๆกลางๆ เหมือนทำไม่เสร็จ อาจต้องให้ prompt ที่ละเอียดถึงจะได้งานได้ดี
ข้อเสีย
ตัวสุดท้ายพี่ใหญ่ IntelliJ ผมเลือกตัว WebStrom มา กับ Junie AI ของทาง IntelliJ
IDE สำหรับสายเก๋า และ เก่า 5555+ IntelliJ เป็น สำหรับมืออาชีพที่ต้องการความสมบูรณ์แบบและการจัดการโปรเจกต์ขนาดใหญ่ โดยรวมทำได้โอเค ระดับเดียวกับ VSCode มีความช้าบ้าง เพราะ กินแรมเยอะ ตัว AI ทำงานโอเค ออกไปทางกลางๆ อาจต้องการ prompt ที่ละเอียดแบบ GPT ถึงจะทำงานได้ดี
ข้อดี
ข้อเสีย
ถ้าให้เลือกส่วนตัว ตอนนี้ก็คงเป็น Antigravity ของทาง Google ยอมรับว่า มาแรงจริงๆ
ผมได้เปรียบเทียบแบบคร่าวๆ ไว้แล้วลองดูกันเลยย
สำหรับใครที่กำลังมองหาทีมงานมืออาชีพในการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันเพื่อนำไปใช้งานในองค์กร ที่ PALO IT เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Software Development และ Application Development พร้อมช่วยคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนสามารถใช้งานได้จริง!
บริการของเราครอบคลุม: